1. การตรวจสุขภาพร่างกาย เป็นการเตรียมพร้อมร่างกายก่อนการอยู่ไฟ โดยจะมีตวรจเช็คสุขภาพร่างกาย และผิวพรรณ เพื่อเป็นการจัดทรีตเม้นท์ให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย และพิจารณาอาการภายนอกและอาการภายใน รวมถึงการซักประวัติโรคประจำตัว และทดสอบว่าคุณแม่มีการแพ้สมุนไพรชนิดใดหรือไม่อย่างไร
2. การอาบน้ำสมุนไพรและการทำความสะอาดผิวโดยการล้างผิวด้วยน้ำสมุนไพร
2.1 การอาบน้ำสมุนไพร จะประกอบไปด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษมากมาย เช่น ขมิ้น ไพล มะกรูด ตะไคร้ ใบมะขาม ใบส้มเสี้ยว ใบส้มป่อย ฯลฯ ความอุ่นของน้ำสมุนไพรจะช่วยให้รูขุมขนเปิด นับเป็นขั้นตอนการเปิดผิวเพื่อให้สมุนไพรสามารถซึมผ่านเข้าสู่ใต้ผิวหนัง คุณแม่จะรู้สึกสดชื่น ช่วยดับกลิ่นน้ำคาวปลา และช่วยขจัดสิ่งสกปรกตามร่างกาย
2.2 การทำความสะอาดผิวและการล้างผิวด้วยน้ำสมุนไพร เป็นการทำความสะอาดผิวหลังจากคุณแม่อบสมุนไพรเรียบร้อย
แล้ว สมุนไพรสูตรนี้ประกอบไปด้วยผักส้มป่อยและฝางแดงซึ่งจะเป็นหลักในการชะล้างทำความสะอาดผิวตามหลักโบราณ
2.1 การอาบน้ำสมุนไพร จะประกอบไปด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษมากมาย เช่น ขมิ้น ไพล มะกรูด ตะไคร้ ใบมะขาม ใบส้มเสี้ยว ใบส้มป่อย ฯลฯ ความอุ่นของน้ำสมุนไพรจะช่วยให้รูขุมขนเปิด นับเป็นขั้นตอนการเปิดผิวเพื่อให้สมุนไพรสามารถซึมผ่านเข้าสู่ใต้ผิวหนัง คุณแม่จะรู้สึกสดชื่น ช่วยดับกลิ่นน้ำคาวปลา และช่วยขจัดสิ่งสกปรกตามร่างกาย
2.2 การทำความสะอาดผิวและการล้างผิวด้วยน้ำสมุนไพร เป็นการทำความสะอาดผิวหลังจากคุณแม่อบสมุนไพรเรียบร้อย
แล้ว สมุนไพรสูตรนี้ประกอบไปด้วยผักส้มป่อยและฝางแดงซึ่งจะเป็นหลักในการชะล้างทำความสะอาดผิวตามหลักโบราณ
3. การนึ่งหม้อเกลือและการประคบหน้าท้องด้วยใบพลับพลึงสด
3.1 การนึ่งหม้อเกลือ เป็นการใช้ความร้อนจากหม้อเกลือผ่านผิวหนังไปทีละชั้น เพื่อให้มดลูกแห้งและเข้าอู่เร็วยิ่งขึ้น ช่วยในการขับน้ำคาวปลาและขณะเดียวกันก็ขับของเสียออกมาตามรูขุมขน ช่วยสลายไขมันส่วนเกินและช่วยลดสัดส่วนเชิงกรานที่
กว้างให้กลับเข้าที่ การคลึงหม้อเกลือตามร่างกายยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ดี
3.2 การประคบหน้าท้องด้วยใบพลับพลึงสด จะช่วยลดอาการบวมอักเสบตามร่างกายได้ ซึ่งในสมัยโบราณเชื่อกันว่าในใบพลับพลึงสดมีตัวยาที่จะช่วยสลายเซลล์ลูไลท์ และช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย
4. การทายานึ่งหน้าท้องให้ยุบ
เป็นตำหรับยาโบราณที่มีมานานกว่า 100 ปี เป็นการนำเอาสมุนไพรที่มีรสร้อนกว่า 10 ชนิดมาบดรวมกันแล้วใช้ร่วมกับน้ำกระสายยาทาบริเวณหน้าท้องก่อนที่จะนึ่งหม้อเกลือและประคบอิฐ (ซึ่งในตัวสมุนไพรที่มีรสร้อนนี้จะไปทำหน้าที่เพิ่มความอบอุ่นเข้าสู่ร่างกายและช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน จึงช่วยให้หน้าท้องยุบตัว)
5. การประคบอิฐด้วยใบพลับพลึง
เป็นการดึงน้ำที่สะสมจากร่างกายให้ระเหยออกมา โดยการผ่านความร้อนจากอิฐ เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาเดินสะดวก ลดอาการอักเสบของมดลูกและลดอาการบวมน้ำ ยังช่วยเสริมในส่วนที่เป็นแนวระนาบที่การนึ่งหม้อเกลือเข้าไปไม่ถึง เพื่อทุกส่วนของร่างกายได้ระบายน้ำส่วนเกินออกมา
6. การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กล่อมมดลูก นวดกดจุดแนวกำดัน นวดกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง นวดเข้าตะเกียบ
6.1 การนวดผ่อนคลายกล้ามเนี้อ เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเพื่อลดการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อจากการอุ้มท้องนานถึง 9 เดือน ของคุณแม่และยังเป็นการกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ใต้ผิวหนังเกิดการตื่นตัว
6.2 การกล่อมมดลูก เป็นการจัดระเบียบมดลูกให้เข้าอู่อย่างเต็มที่ และช่วยป้องกันภาวะกระเพาะปัสสาวะครากหลังคลอดบุตร
6.3 การนวดกดจุดแนวกำดัน เป็นการนวดเปิดระบบประสาทส่วนบนให้มีการขยายตัวของหลอดเลือด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เดินสะดวก
6.4 การนวดกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง เป็นการนวดกระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานให้เป็นปกติ และผลในทางอ้อมยังช่วยให้น้ำนมมามากขึ้นด้วย
6.5 การนวดเข้าตะเกียบหรือสมัยโบราณเรียกว่าการเหยียบสะโพก เป็นลักษณะการนวดเฉพาะด้าน เพื่อกระตุ้นปลายประสาทสัมผัสบริเวณสะโพกให้หดตัว กระชับสะโพกให้เข้าที่ไม่ให้ผายออกมามากเกินควร การนวดเข้าตะเกียบต้องทำกับผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะเป็นศาสตร์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณไม่มีในหลักสูตรการเรียนการสอน จะนวดตอนนวดน้ำมันและตอนนึ่งหม้อเกลือ
7. การนวดหน้ากดจุด
เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเดนน้ำเหลืองบริเวณใบหน้า กระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ใต้ผิวหนังเกิดการตื่นตัว และทำให้ผิวหน้ากระชับเปล่งปลั่ง
8. การนั่งถ่าน (สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ เท่านั้น)
เป็นการช่วยสมานแผลบริเวณฝีเย็บให้หายและแห้งสนิทไวยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วยสมุนไพรและว่านต่างๆหลายชนิด เช่น เหง้าว่านน้ำ เหง้าว่านนางคำ เหง้าขมิ้น เหง้าไพล ฯลฯ โดยจะใช้การเผาไหม้สมุนไพรให้เกิดควันอุ่นๆ มากระทบบริเวณฝีเย็บ
9. การประคบตัวด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษและการประคบหน้าอก
9.1 การประคบตัวด้วยสมุนไพร สูตรพิเศษของบ้านช่อตะวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดอาการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อจากการอุ้มท้องแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่องสดใส ผิวพรรณจะกระชับเต่งตึงมีน้ำมีนวล
9.2 การประคบหน้าอก เป็นการประคบบริเวณต่อมท่อน้ำนม เพื่อกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้น และยังช่วยกระชับทรวงอกไม่ให้หย่อนคล้อย
10. การประคบก้อนเส้า/การบำบัดด้วยหินร้อน
เป็นประเพณีการอยู่ไฟ ของชาวไทยภาคอีสาน ซึ่งใช้ก้อนเส้าในการดูดซับของเสียออกจากร่างกาย โดยก้อนเส้าจะเป็นตัวกลางในการดูดซับของเสีย ทั้งความร้อนอุ่นๆ จากก้อนเส้าจะช่วยผ่อนคลายอาการแข็งเกร็งของจุดศูนย์รวมประสาทในร่างกายให้คลายตัวลง (ก้อนเส้า เกิดจากการรวมตัวของแร่ในธรรมชาติ ที่มีสรรพคุณในการผ่อนคลาย)
11. การเข้ากระโจมอบตัวด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษ
11.1 การเข้ากระโจมอบตัว เป็นการขับของเสียออกจากร่างกายทางเหงื่อ ไอความร้อนของสมุนไพร จะช่วยให้รูขุมขนเปิด ปอดและหลอดเลือดฝอยจะขยายตัว การหายใจจะสะดวกขึ้น การไหลเวียนโลหิตจะดีขึ้น กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายและไขมันที่สะสมไว้ขณะตั้งครรภ์ก็จะลดลงได้ด้วย ผิวพรรณจะผุดผ่อง ยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้นอีกด้วย
11.2 การรมตา เป็นการใช้ไอน้ำจากสมุนไพรที่เราอบตัวในกระโจม ซึ่งสูตรสมุนไพรอบตัวหลังคลอดจะมีสมุนไพรชนิดพิเศษที่บำรุงสายตาเช่นผักบุ้ง ซึ่งตัวสมุนไพรนี้จะช่วยบำรุงสายตาและระบบประสาทส่วนบน ช่วยให้ดวงตาสดใส ยืดอายุการใช้งานของดวงตา ลดอาการตาพร่ามัวและช่วยลดอาการตาฝ้าฟางได้ในยามที่เราอายุมากขึ้น
9.2 การประคบหน้าอก เป็นการประคบบริเวณต่อมท่อน้ำนม เพื่อกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้น และยังช่วยกระชับทรวงอกไม่ให้หย่อนคล้อย
10. การประคบก้อนเส้า/การบำบัดด้วยหินร้อน
เป็นประเพณีการอยู่ไฟ ของชาวไทยภาคอีสาน ซึ่งใช้ก้อนเส้าในการดูดซับของเสียออกจากร่างกาย โดยก้อนเส้าจะเป็นตัวกลางในการดูดซับของเสีย ทั้งความร้อนอุ่นๆ จากก้อนเส้าจะช่วยผ่อนคลายอาการแข็งเกร็งของจุดศูนย์รวมประสาทในร่างกายให้คลายตัวลง (ก้อนเส้า เกิดจากการรวมตัวของแร่ในธรรมชาติ ที่มีสรรพคุณในการผ่อนคลาย)
11. การเข้ากระโจมอบตัวด้วยสมุนไพรปลอดสารพิษ
11.1 การเข้ากระโจมอบตัว เป็นการขับของเสียออกจากร่างกายทางเหงื่อ ไอความร้อนของสมุนไพร จะช่วยให้รูขุมขนเปิด ปอดและหลอดเลือดฝอยจะขยายตัว การหายใจจะสะดวกขึ้น การไหลเวียนโลหิตจะดีขึ้น กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายและไขมันที่สะสมไว้ขณะตั้งครรภ์ก็จะลดลงได้ด้วย ผิวพรรณจะผุดผ่อง ยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้นอีกด้วย
11.2 การรมตา เป็นการใช้ไอน้ำจากสมุนไพรที่เราอบตัวในกระโจม ซึ่งสูตรสมุนไพรอบตัวหลังคลอดจะมีสมุนไพรชนิดพิเศษที่บำรุงสายตาเช่นผักบุ้ง ซึ่งตัวสมุนไพรนี้จะช่วยบำรุงสายตาและระบบประสาทส่วนบน ช่วยให้ดวงตาสดใส ยืดอายุการใช้งานของดวงตา ลดอาการตาพร่ามัวและช่วยลดอาการตาฝ้าฟางได้ในยามที่เราอายุมากขึ้น
12. การคาดไฟชุดตำหรับหลวง
ช่วยแก้อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว แก้อาการหนาวสะท้าน แก้อาการตะคริว เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ยังสามารถช่วยลดหน้าท้องได้อย่างถาวรอีกด้วย (ขณะใช้ไฟชุดสามารถปฏิบัติภารกิจประจำวันได้)
13. การดื่มน้ำสมุนไพรขิงและน้ำสมุนไพรว่านชักมดลูก
13.1 การดื่มน้ำสมุนไพรขิง ช่วยปรับความสมดุลของร่างกายให้กลับสู่สภาวะปกติ กระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตให้เดินสะดวกช่วยบำรุงน้ำนม และรักษาอุณหภูมิในร่างกาย
13.2. การดื่มน้ำสมุนไพรว่านชักมดลูก ว่านชักมดลูก ในสูตรสำหรับหลังคลอดบ้านช่อตะวันได้ปรุงว่านชักมดลูกตามหลักการควบคุมของมาตราฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ซึ่งการดื่มน้ำสมุนไพรว่านชักมดลูกจะช่วยทำให้การหดรัดตัวของมดลูกดียิ่งขึ้น และการดื่มอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจะมีประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น